เล่นมือถือนานๆแล้วตาบอด จริงหรือ?
0 comments
ใครๆก็มีมือถือ ใครๆก็เล่นมือถือ เพราะมือถือ ทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น ทำงาน เล่นเกมส์ ดูหนัง เสพสื่อ เล่น Social และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เราใช้มือถือได้ตลอดทั้งวัน จนทำให้บางคนออกมาขู่ว่า เล่นมือถือบ่อยๆระวังตาบอดนะ เราก็ว่ามันจริงหรือ? มาหาคำตอบกัน
ข้อมูลจาก อ.พญ.วฎาการ วุฒิศิริ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
การใช้ มือถือ Smartphone กับ Computer ไม่ทำให้ตาบอด แต่ที่คนกังวลมาจากรังสี UV และแสงสีฟ้า (Blue Light) มาทำความรู้จักสิ่งเหล่านี้กันดีกว่า
รังสี UV ประกอบด้วย UVA และ UVB ถูกชั้นโอโซนของโลกกรองไว้ระดับหนึ่ง มีโอกาสทำลายจอประสาทตาน้อยมาก เพราะรังสีเหล่านั้นถูกดูดกลืนถึง 99% เข้าจอประสาทตาเพียง 1% และรังสี UV ยังไม่มาจาก Smartphone และ Computer อีกด้วย
แสงสีฟ้า (Blue Light) คือแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอยู่ที่ 380-500 นาโนเมตร ทำให้แสงสีสามารถกระจายตัวได้มาก ส่งผลให้เกิดอาการ ปวดตา ตาล้าได้ แต่แสงสีฟ้าก็มีข้อดีเหมือนกัน คือ กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว มีผลต่อการนอนได้ถ้าเราเล่นก่อนนอน อาจมีอาการนอนไม่หลับได้ แสงสีฟ้าพบได้ทั่วไป คือ แสงอาทิตย์ หลอดไฟ Computer และ Smartphone แต่แสงสีฟ้า ไม่ทำให้ตาบอด เพียงแต่ทำให้ตาล้า เมื่อมองเป็นเวลานานๆ
เล่นมือถือจอประสาทตาเสี่ยม หรือ จอประสาทตาหลุด ไม่เป็นจริง มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้ ยังไม่พบความสัมพันธ์ของแสงสีฟ้า กับจอประสาทตาเสื่อมอย่างชัดเจน เพราะ โรคจอประสาทตาเสื่อม เกิดจากหลายปัจจัย
สรุป การใช้ Computer หรือ Smartphone นานๆและในที่มือ ไม่ส่งผลให้ตาบอดและจอประสาทตาเสื่อม แต่...แสงเหล่านั้น ทำให้ไม่สบายตา สายตาล้า เมื่อมีอาการดังกล่าว ควรพักสายตา หลับตาบ้าง พักการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวบ้าง ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการตาล้าได้ดีเลยทีเดียว
ที่มา: นิตยสารวาไรตี้สุขภาพราย 2 เดือน ฉบับวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ย่อโลกสุขภาพไว้ในมือคุณ
✅สั่งซื้อทาง Shopee ได้แล้ววันนี้
✅คลิก: bit.ly/2KovptP
👇
✅สั่งซื้อผ่าน Facebook คลิก: http://m.me/ihlcares
👇
✅สั่งซื้อผ่าน LINE คลิก: https://lin.ee/k6RJmjC
0 comments